วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

Framework Management Tool Box (CSR)

Framework  Management Tool Box : Corporate Social Responsibility (CSR)
ด้าน Organizing

              1. แนวคิด CSR
          -   การประกอบธุรกิจโดยยึดหลักศีลธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล                -  มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
-         -   การปฎิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กรอย่างมีคุณธรรม                    -  การเข้าร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม
-         -  การเคารพสิทธิและปฎิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม                              -  การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม        
-         -  การส่งเสริมให้พนักงานได้พัฒนาตนเอง                                                   -  การจัดทำรายงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม


             2. เรื่องมือนี้คืออะไร/ มีองค์ประกอบอะไร
Corporate Social Responsibility (CSR) คือ การดำเนินกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับใกล้และไกล ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรหรือทรัพยากรจากภายนอกองค์กร ในอันที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข

       3.  เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไร
                CSR  ใช้เพื่อการจัดองค์กร (Organizing) โดยมุ่งการสร้างองค์กรให้มีความ ดีและทำให้องค์กรเกิดความยั่งยืน บนพื้นฐาน  3 มิติ คือ
               1.       Social    
               2.       Environment
               3.       Economic



        4. ข้อดี-ข้อเสียของเครื่องมือ

       ข้อดี :
     1.  กลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคม (ลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น คู่ค้า คู่แข่ง รัฐบาล สื่อมวลชน ประชาชน) ให้การยอมรับ
       2.  เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่องค์กร
       3.  สร้างจุดแข็งทางการตลาด สร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียงให้แก่องค์กร
       4. สามารถดึงดูด รักษา พนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรได้นาน
       5.  สื่อมวลชนให้ความร่วมมือในการนำเสนอข่าวสารด้าน CSR
       6.  สร้างแรงดึงดูดใจให้กับนักธุรกิจ นักลงทุน และนักการเงิน
       7.  องค์กรจะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนแม้เกิดภาวะวิกฤต
       8.  เพิ่มยอดขายและสัดส่วนทางการตลาดให้แก่องค์กร

      ข้อเสีย :
    1.  ขาดความเข้าใจมองว่า CSR เป็นหน้าที่ของรัฐไม่ใช่องค์กรธุรกิจ
      2.  การทำ CSR ไม่เต็มที่ ทำเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ไม่เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
      3.  การทำ CSR ที่มีความหลากหลายประเด็น ไม่ลงลึก ทำให้ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
      4.  ผู้บริหารไม่สนับสนุน มองว่าทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ไม่แน่ใจผลที่จะเกิดขึ้น

      5.  ใช้อย่างไร (หรือจัดทำอย่างไร)
     1.ควรเริ่มกิจกรรม CSR จากภายในสู่ภายนอก (inside-out)
2.ควรปลูกฝังค่านิยมเรื่องของการช่วยเหลือ การแบ่งปัน ความรับผิดชอบ ให้แก่พนักงานในองค์กร
3.สร้างทีมงาน CSR ประกอบด้วยบุคลากรจากหลายฝ่ายช่วยกัน
4.เขียนแผนงานด้าน CSR อย่างเป็นขั้นตอน พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบโดยตรง สามารถติดตามประเมินผลได้
5.วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสขององค์กร เพื่อหาประเด็นทำ CSR
6.ควรสร้างประเด็น CSR ที่สอดคล้องสัมพันธ์กับการดำเนินธุรกิจ
7.สร้างกิจกรรม CSR กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆขององค์กร
8.ระบุให้ชัดเจนว่ากิจกรรมนั้นมุ่ง target กลุ่มไหน
9.กำหนดวัตถุประสงค์ของการทำ CSR ให้ชัดเจนและแจ้งให้พนักงานทราบเพื่อให้ได้ความร่วมมือ
10.ต้องเข้าใจแนวคิด CSR เข้าใจแก่น และเน้นทำ CSR แบบยั่งยืนและต่อเนื่อง
11.ไม่ควรคิดทำ CSR เพียงเพื่อต่อยอด สร้างแบรนด์เท่านั้น
12.ควรทำ CSR ในเชิงรุก (ไม่ใช่รอให้ปัญหาเกิดแล้วค่อยแก้ไข)

6.-7.  มีใครนำเครื่องมือนี้ไปใช้บ้างและได้ผลสรุปอย่างไร /กรณีศึกษา
1.  แผนยุทธศาสตร์การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (การกีฬาแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2553-2557)
2. บริษัท บาร์ธรูม ดีไซด์ จำกัด  (www.bathroomtomorrow.com)      
3. บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย ( SCC) (http://www.siamcement.com)
4. บมจ.บางจากปิโตรเลียม ( BCP) (http://www.bangchak.co.th)    
5. บมจ.ปตท.( PTT)    (http://www.pttplc.com)
6. บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) (http://www.kasikornbank.com)
7. http://horizon.spu.ac.th/ipac20/ipac.jsp?session=13AA821M13890.68927




ข้อมูล และรวบรวมโดย : นายพีระวัฒน์  ชาติพฤกษพันธุ์


   

Framework Management Tool Box : ABC (Activity based costing)

Framework Management Tool Box : ABC (Activity based costing)
ด้าน Controlling


      1.  หลักการ/ แนวคิด/ ประวัติความเป็นมา
           ต้นทุนฐานกิจกรรม (Activity based costing : ABC) เป็นแนวคิดของระบบการบริหารต้นทุนแบบใหม่ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้ผู้บริหารหันมาให้ความสนใจกับการบริหารกิจกรรมและต้นทุนที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งออกเป็นกิจกรรมต่าง ๆ และถือว่ากิจกรรมเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดต้นทุน ส่วนผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่ใช้กิจกรรมต่าง ๆ

2. เครื่องมือนี้คืออะไร/ มีองค์ประกอบอะไร
          การบัญชีต้นทุนฐานกิจกรรม (ABC)  เป็นวิธีคิดต้นทุนแบบใหม่โดยการมองไปที่กิจกรรมที่สินค้าหรือบริการนั้น ๆ การคิดต้นทุนแบบ ABC นิยมใช้กันมากกับนักบริหารและที่ปรึกษาในการคำนวณช่องทางการรั่วไหลของต้นุทนของบริษัท  การคิดต้นทุนตามวิธีการดังกล่าวเป็นก้าวแรกของการบริหารแบบยึดถือกิจกรรมเป็นหลัก ที่เรียกว่า "Activity-based management"  หรือ ABM  โดยมีองค์ประกอบ คือ
        1.  การวิเคราะห์และระบุกิจกรรม
        2.  การคำนวณต้นทุนกิจกรรม
        3.  การวิเคราะห์และระบุตัวผลักดันต้นทุนกิจกรรม
        4.  การคำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์

3. เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไร
     การบัญชีต้นทุนกิจกรรม (ABC)  เป็นเครื่องมือใช้เพื่อการควบคุม (Controlling) ในองค์กรสำหรับผู้บริหาร  โดยปัจจัยที่บ่งชี้สำหรับองค์กรที่ต้องนำ ABC มาใช้ คือ
      1.       ต้นทุนการดำเนินงานสูงกว่าองค์กรที่อยู่ในระดับเดียวกันหรือคู่แข่งขัน
      2.       ฝ่ายจัดการตระหนักถึงความไม่ถูกต้องของนโยบายและกลยุทธ์ด้านราคา
      3.       การวัดผลการปฏิบัติงานยังไม่ได้ให้สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจที่เพียงพอ

4. ข้อดี-ข้อเสียของเครื่องมือ 
    ข้อดี.....
-                   -   ช่วยให้การคำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์/ บริการมีความถูกต้อง                
                    -  ช่วยการพัฒนากิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
-                  -    ช่วยในการวัดผลปฏิบัติงานของกิจการ       
                    -  ช่วยในการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย    
                    -  ช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจ        
           ข้อเสีย...
-                  -  มีค่าใช้จ่ายมากเนื่องจากต้องจัดทำแผนภูมิแสดงขบวนการผลิตแบ่งแยกเป็นกิจกรรมต่าง ๆ
           -  ต้องหาเอกสารหรือจดรายงานความสัมพันธ์ของตัวผลักต้นทุนกับกิจกรรมทุกกิจกรรม ส่งผลให้เสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลา 

  5. ใช้อย่างไร (หรือจัดทำอย่างไร)
          1.  เลือกงานที่จะคำนวณต้นทุนเสียก่อน จากนั้นกำหนดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องรวมถึงทรัพยากรต่าง ๆ ที่กิจกรรมทั้งหมดต้องใช้

              2.   กำหนดค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนของกิจกรรมทางอ้อมที่เกี่ยวข้อง
              3.   กำหนดจำนวนทรัพยากรแต่ละชนิดที่ต้องใช้ในแต่ละกิจกรรม
              4.   คำนวณต้นทุนทางอ้อมรวมของแต่ละงานนั้น ๆ
              5.  คำนวณหาต้นทุนทางอ้อมต่อหน่วยต่องาน

   6. มีใครนำเครื่องมือนี้ไปใช้บ้างและได้ผลสรุปอย่างไร /กรณีศึกษา
                       -   งานวิจัยโชติกา  ทองสุโชติ (2552) ศึกษาการจัดการควบคุมสินค้าคงคลัง โดยวิธี ABC Analysis ของธุรกิจรับเหมาะก่อสร้าง :  กรณีศึกษา บริษัท เอ.ซี.เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ ดีไซน์ จำกัด
                       -   งานวิจัย :กฤษณี  แสงสว่าง (2554) ศึกษาการจัดการคลังสินค้าโดยทฤษฎี ABC Analysis : กรณีศึกษา บริษัท ไทยกุลแซ่ (ประเทศไทย) จำกัด     


            -   http://horizon.spu.ac.th/ipac20/ipac.jsp?session=D3448A22M1625.69221


ข้อมูล และรวบรวมโดย  นายพีระวัฒน์  ชาติพฤกษพันธุ์